5 เรื่องจริงจากดวงจันทร์
#TheSilentSea(2021) #5เรื่องจริงจากดวงจันทร์ ที่ช่วยให้ดูซีรีย์สนุกยิ่งขึ้น (มีการเปิดเผยบางส่วนของเนื้อหา)
ซีรีย์สัญชาติเกาหลีว่าด้วยภารกิจนำทรัพยากรจากดวงจันทร์ มากู้โลกที่กำลังจะล่มสลายเพราะภัยแล้งและทางแพร่งที่ต้องเลือก เมื่อเผชิญกับคำถามที่เกิดขึ้นตลอดมาของเส้นทางการพัฒนา และความก้าวหน้าของมนุษย์ชาติ ที่ว่า..
ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ อนุญาตให้เราละเมิดคนส่วนน้อยหรือ ชีวิตอื่นๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้มากน้อยแค่ไหน และอะไรคือ ความเป็นธรรมต่อคนส่วนน้อย ที่เรายัดเยียดให้เป็นผู้เสียสละ..
ซีรีย์มีเพียง 8 ตอน ดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว และลุ้นระทึก ทำให้ต้องค้นข้อมูลของดวงจันทร์ ให้ติดตามเรื่องได้สนุกขึ้น
1.ระยะห่างของดวงจันทร์
ดวงจันทร์คือเป้าหมายแรกของมนุษย์ในการสำรวจอวกาศ เหตุผลง่ายๆ ก็คือ อยู่ใกล้ที่สุด ด้วยระยะทาง 385,000 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการเดินทางไปกลับจากแม่สาย ซึ่งเป็นจุดเหนือสุดไปยังจุดใต้สุดที่เบตง 117 รอบ ในปี 1969 (52 ปีก่อน) ยานอะพอลโล 11 ใช้เวลาเดินทางไปยังดวงจันทร์ 110 ชั่วโมง หรือราว 4 วันเศษๆ ทุกวันนี้มีความพยายามที่จะหาวิธีเดินทางในอวกาศได้เร็วขึ้น ล่าสุดการส่งยานไปดาวอังคารสามารถทำได้ภายใน 3 วัน และหากเป็นยานที่มีมนุษย์อยู่ด้วย จะใช้เวลา 1 เดือน ส่วนดวงจันทร์ใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน ในซีรีย์ซึ่งเป็นโลกอนาคต แม้ไม่ได้ระบุเวลาที่เดินทางไว้ แต่น่าจะน้อยกว่า หนึ่งวัน
ในชีรีย์เรียกดวงจันทร์ว่า Luna ไม่ใช่ Moon ทั้งนี้เพื่อแยกดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก ออกจากดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของดาวอื่นๆ นักดาราศาสตร์ใช้ Luna ซึ่งเป็นภาษาละตินแทน Moon
2.บนดวงจันทร์ไม่มีท้องฟ้า และเราจะหนักแค่ 1 ใน 6 ของน้ำหนักบนโลก
เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดแค่ราวๆ หนึ่งในสี่ของโลก และมีมวลน้อย จึงมีแรงโน้มถ่วงน้อยตามไปด้วย จนไม่สามารถดึงดูดอนุภาคต่างๆ ไว้ได้มากนัก ทำให้ชั้นบรรยากาศบนดวงจันทร์บางมาก เรียกได้ว่า แทบจะไม่มีชั้นบรรยากาศ เมื่อมองออกไปจากดวงจันทร์ จะเห็นความเวิ้งว้างของอวกาศอันมืดมิด และดวงอาทิตย์ ก็เป็นแค่จุดดาวดวงหนึ่ง เหมือนดาวอื่นๆ เพียงแต่มีขนาดใหญ่
ในซีรีย์ดร.ซงจี(แบดูนา) จึงมองเห็นโลกผ่านบานหน้าต่าง แม้เวลาในขณะนั้น เป็นช่วงกลางวันบนดวงจันทร์ ต่างจากบนโลกที่มีชั้นบรรยากาศ ช่วยกระเจิงแสงอาทิตย์ ทำให้เรามองเห็นเป็นท้องฟ้า และเห็นแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันเจิดจ้า จนมองไม่เห็นดาวอื่นๆ
แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์น้อยกว่าโลกราว 6 เท่า ดังนั้นถ้าเราหนัก 60 กิโลกรัมบนโลก เราจะหนักเพียง 10 กิโลกรัมบนดวงจันทร์ การเดินบนดวงจันทร์จึงใช้แรงน้อยกว่าบนโลก ทำให้ทีมปฏิบัติภารกิจ สามารถเดินไปถึงฐานแม้มีปริมาณออกซิเจนจำกัด
3.ทะเลเงียบสงัด (Silent Sea หรือ Mare Tranquilitatis ในภาษาละติน)
คือ บริเวณที่ยานอพอลโล 11 ลงจอด และนีล อาร์มสตรอง ลงเดินบนดวงจันทร์ ดังนั้นบริเวณนี้จึงไม่ได้เป็นทะเล แต่ได้ชื่อมาจากนักดาราศาสตร์ยุคแรกๆ ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์สำรวจดวงจันทร์ เข้าใจว่าบริเวณที่มองเห็นเป็นสีดำบนดวงจันทร์ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแห่ง(ที่เรามองเห็นเป็นรูปกระต่าย) คือ ทะเล และตั้งชื่อให้เป็นทะเลต่างๆ
แท้ที่จริงทะเลเหล่านั้น คือหลุมที่เกิดจากอุกาบาตขนาดใหญ่ ในยุคแรกของระบบสุริยะตกใส่ เนื่องจากชั้นบรรยากาศดวงจันทร์บางมาก ไม่สามารถปกป้องการพุ่งชนของอุกาบาต ทำให้เกิดหลุมลึกมากจนแมกมาภายในดวงจันทร์ พุ่งขึ้นมาและแข็งตัวเป็นแอ่งหินบะซอลต์ พื้นผิวดวงจันทร์เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่จนเรามองเห็นได้จากโลก
4.น้ำบนดวงจันทร์
แม้โครงการอพอลโลยืนยันชัดเจนว่า พื้นผิวดวงจันทร์แห้งสนิท และตัวอย่างหินที่เก็บมาก็ไม่พบสัญญาณของน้ำ แต่ประเทศผู้นำด้านอวกาศ ก็ไม่เคยสิ้นหวังที่จะหาน้ำบนดวงจันทร์
จากข้อเท็จจริงที่ว่า ดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศ ทำให้น้ำหากจะเคยมีอยู่ระเหยไปอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากดวงจันทร์ มีความผันผวนของอุณหภูมิสูงมาก บริเวณที่โดนแสงอาทิตย์ อุณหภูมิอาจขึ้นไปสูงสุดถึง 121 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณไม่มีแสง อุณหภูมิติดลบต่ำสุดที่ -133 องศาเซลเซียส จึงมีข้อสันนิษฐานว่า บริเวณขั้วของดวงจันทร์ที่เอียงจากดวงอาทิตย์ แถบหุบเหวลึก ที่ไม่ได้รับแสงอาทิตย์และอุณหภูมิต่ำมากๆ น่าจะมีน้ำสะสมเป็นผลึกน้ำแข็งอยู่และมีภาพถ่ายจากการสำรวจยืนยัน
ล่าสุดเมื่อปี 2020 นาซาตรวจพบว่าสัญญาณของน้ำบนดวงจันทร์ในรูปแบบที่ต่างออกไป เป็นน้ำที่ถูกกักเก็บอยู่ในผลึกแก้ว ปนอยู่ในพื้นผิวระดับตื้นบริเวณแอ่งหลุมอุกาบาตขนาดใหญ่ แม้ปริมาณน้ำในดินที่พบ จะมีปริมาณน้ำน้อยกว่าในทะเลทรายซาฮาราถึง 100 เท่า แต่สามารถดึงมาใช้ได้ง่ายกว่า ที่สำคัญ น้ำที่เป็นผลึกน้ำแข็งในจุดที่ลึกของดวงจันทร์ ด้านที่ไกลจากโลก และมีปริมาณมากพอที่จะไปตั้งฐานบนดวงจันทร์
ถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าน้ำบนดวงจันทร์มาจากไหน คาดว่าอาจจะติดมากับอุกาบาต หรือไม่ก็เกิดจากไฮโดรเจนจากลมสุริยะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนบนพื้นผิว และความร้อนจากปัจจัยภายนอก เช่น ความร้อนจากอุกกาบาตขนาดเล็ก ทำให้น้ำที่อยู่ใกล้เคียงกลายเป็นเป็นไอ ในขณะที่หินและทรายถูกหลอมละลายจนกลายเป็นผลึกซิลิกา ห่อหุ้มโมเลกุลของน้ำไว้
ส่วนในซีรีย์ ทีมสำรวจของเกาหลีใต้ ค้นพบน้ำบนดวงจันทร์ ตามแนวคิดที่ว่า ในหลุมอุกาบาตขนาดใหญ่ บริเวณที่มีร่มเงาถาวร อาจจะมีผลึกน้ำแข็งอยู่ ไม่ระเหยไปเนื่องจากเป็นจุดที่มีอุณหภูมิต่ำมาก
5.สิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์
เพราะไม่มีน้ำ จึงไม่มีสิ่งมีชีวิต จนถึงทุกวันนี้ แม้มีการสำรวจดวงจันทร์จากหลายปฏิบัติการของหลายชาติ แต่ไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบน้ำ ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์สามารถใช้ดวงจันทร์เป็นอาณานิคมได้
เพราะไม่มีสิ่งมีชีวิตรวมทั้งแบคทีเรียต่างๆ ในซีรีย์ศพภายในสถานีทดลองบนดวงจันทร์ ไม่โดนแสงอาทิตย์และไม่ถูกย่อยสลาย จึงคงอยู่ในสภาพเดิม แม้เวลาจะผ่านไปถึง 5 ปี
ลูนาวอร์เตอร์ ใน The Silent Sea แม้จะมีองค์ประกอบของน้ำไม่ต่างจากน้ำบนโลก แต่มีคุณสมบัติที่ต่างออกไป คล้ายกับไวรัส คือโดยตัวมันเองไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต แต่เมื่อเข้าสู่เซลของสิ่งมีชีวิต จะสามารถเพิ่มจำนวนได้แบบทวีคูณ จนกว่าสิ่งมีชีวิตนั้นจะตาย
น้ำบนดวงจันทร์ จึงเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ แต่ไม่เป็นอันตรายกับพืช ทั้งนี้เพราะ พืชมีผนังเซลที่แข็งแรง ต้านทานแรงดันของน้ำได้ และเมื่อน้ำเข้ามาจนแรงดันจากภายนอก เท่ากับแรงดันภายใน ก็จะหยุด ส่วนคนหรือสัตว์หากมีน้ำในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะเกิดภาวะเซลแตกและน้ำท่วมอวัยวะภายใน
โดยนัยนี้ ไม่เพียงน้ำกำเนิดสิ่งมีชีวิต แต่น้ำบนดวงจันทร์ต้องอาศัยชีวิตเพื่อเพิ่มจำนวน
ตามหลักกฎหมายอวกาศ ดวงจันทร์เป็นสมบัติร่วมของมนุษยชาติ ทว่าผลประโยชน์จากทรัพยากรและพื้นที่บนดวงจันทร์ ทำให้ประเทศมหาอำนาจ แข่งขันกันสำรวจดวงจันทร์ ทั้งนี้ นาซาวางแผนจะกลับไปดวงจันทร์ ภายในปี 2024 ส่วน ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายที่จะให้คนญี่ปุ่นได้เหยียบดวงจันทร์ ภายในทศวรรษที่ 2020 ในขณะที่จีนส่งยานฉางเอ่อ ไปลงด้านที่ห่างไกลจากโลก ที่ยังไม่มีประเทศใดสำรวจมาก่อน
ในมุมของดวงจันทร์..ทุกวันนี้ดวงจันทร์กำลังเคลื่อนช้าลงและถอยห่างจากโลกมากขึ้นทุกที...
(ว่าแต่ใครสนโครงการจะเป็นชาติที่ 5 ในเอเชีย ที่ส่งยานไปโคจรรอบดวงจันทร์ของรัฐบาลไทยบ้าง???)
.................................................................................................................
ผลงานการกำกับของ ชเวฮันยง เจ้าของผลงานหนังสั้น The Sea of Tranquility ซึ่งเป็นที่มาของซีรีย์นี้ ผู้เขียนบท : พัคอึนคโย (The Great Battle และ Mother ภาพยนตร์ของบงจุนโฮ)
ผู้แสดง กัปตันฮันยุนจา หัวหน้าคณะ : กงยู ดร.ซงจีอัน นักชีววิทยาศาสตร์และนักพฤติกรรมศาสตร์ : แบดูนา รยูแทชอก วิศวกร : อีจุน กงซูฮยอก หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย : อีมูแซง ฮงกายอง แพทย์ : คิมชอนยอง
ภาพจาก Netflix
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ Page #BMFH:BewareMyFoolishHeart
Comments